วันที่  27  กุมภาพันธ์  2563นางพิมพ์ชนก ทิพย์มูสิก นักวิชาการแรงงานปฏิบัติการ สำนักงานแรงงานจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ร่วมกับทีมสหวิชาชีพจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนัง เข้าตรวจสอบเรือประมงไม่ปรากฎสัญชาติ ไม่ชักธงชาติไทย ทำการประมงอยู่ที่แลตติจูด ๐๘ องศา ๒๙ ลิปดาเหนือ ลองติจูด ๑๐๐ องศา ๕๓ ลิปดาตะวันออก จากการตรวจสอบมีไต๋เรือพร้อมลูกเรือรวม ๕ คนทุกคนไม่มีเอกสารประจำตัวไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปากพนังดังนี้
๑.เรือประมงไม่มีสัญชาติ ไม่มีชื่อ ตัวเรือสีเขียว เก๋งเรือสีเขียว ขนาด ๓๐ ตันกรอส พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ๑ ลำ
๒.เครื่องมือทำการประมง (คราดปลิง) ๓ ชุด
๓.ปลิงทะเลประมาณ ๒๐๐ กิโลกรัม
๔.วิทยุมดดำ ๑ เครื่อง
๕.เครื่องระบุพิกัดตำแหน่งดาวเทียม ๑ เครื่อง
ทีมสหวิชาชีพได้สัมภาษณ์ไต๋เรือและลูกเรือทั้ง ๕ คนซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามผ่านนางสาวทิพย์วรรณ นวลปาน ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาเวียดนามได้เป็นอย่างดีดังรายชื่อ
๑.นายเหว่น จี๋ ฮาย อายุ ๔๘ ปี ไต๋เรือ
๒.นายจั๋ง วัง ล่อม อายุ ๔๔ ปี
๓.นายโง วาง ฮาว อายุ ๔๘ ปี
๔.นายหยอ วัง คูน อายุ ๔๐ ปี
๕.นายจุง วาง ขาง อายุ ๒๘ ปี
ผลจากการสัมภาษณ์เพื่อคัดแยกว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ๔ คนให้ข้อมูลว่าเดิมทำงานเป็นลูกเรือตกหมึก มีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว ได้รับฟังจากคนที่เคยมาจับปลิงทะเลแล้วมีรายได้ดี จึงตั้งใจมากับเรือประมงลำนี้เพื่อจับปลิงทะเลเนื่องจากบ้านมีฐานะยากจน โดยตกลงว่าจะแบ่งค่าจ้างให้หลังจากขายปลิงทะเลที่จับมาได้โดยให้เจ้าของเรือ ๖๐ เปอร์เซนต์เนื่องจากเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการออกเรือมาตั้งแต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ที่เหลือ ๔๐ เปอร์เซ็น แบ่งกัน ๕ คน สภาพการอยู่บนเรือมีอาหารการกินสมบูรณ์ ทุกคนไม่มีใครถูกบังคับ ขู่เข็ญให้มาทำงาน มาทำงานบนเรือด้วยความสมัครใจ และทราบว่าหากถูกจับได้ในประเทศไทยจะมีความผิด สำหรับนายโง วาง อ่าว ทำงานเป็นช่างซ่อมเรือ แต่อยากเห็นสภาพการทำงานบนเรือ จึงได้ขอไต๋เรือซึ่งเป็นเพื่อนขอขึ้นเรือมาด้วย โดยไม่ได้สนใจว่าจะได้ค่าจ้างหรือไม่
จากการสัมภาษณ์ ทุกคนสมัครใจและตั้งใจทำงานบนเรือลำนี้ไม่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์แต่อย่างใด ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาดังนี้
๑.ไต่เรือ เป็นผู้ควบคุมเรือประมงใช้เรือไร้สัญชาติ ลักลอบทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งฝ่าฝืน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๓๖ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ. ๒๔ผ๘๓ มาตรา ๗ (๑) และ ๕ ทวิ
๒.ลูกเรือ ทั้ง ๔ คน ร่วมกันทำการประมงโดยทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือไร้สัญชาติลักลอบทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งฝ่าฝืน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๓๖ พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา๗ (๑)และ ๕ ทวิ
๓.ทั้ง ๕ คนเป็นคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒